Present simple tense

Present simple tense คืออะไร มีการใช้อย่างไร
Present simple tense เป็น tense พื้นฐานที่มีโครงสร้างเรียบง่าย แต่ก็ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเป็นหนึ่งใน tense ที่ใช้บ่อย และเป็นพื้นฐานของแกรมม่าหัวข้ออื่นๆ อีกมากมาย

สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยแม่นเรื่อง present simple tense ในบทความนี้ อิงลิช แก๊ง ก็ได้เรียบเรียงเนื้อหามาให้ได้เรียนรู้กันแบบง่ายๆ แล้ว เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Present simple tense คืออะไร
Present simple tense คือรูปคำกริยาที่ใช้กับข้อเท็จจริงทั่วไป สิ่งที่เป็นกิจวัตร หรือแผนการและตารางเวลา ซึ่งจะใช้คำกริยาช่อง 1 (เช่น go, come, eat) อย่างเช่น I go to school every day. // ฉันไปโรงเรียนทุกวัน
แต่ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 เราจะต้องใช้คำกริยารูป s/es แทน (เช่น goes, comes, eats) อย่างเช่น He goes to school every day / เขาไปโรงเรียนทุกวัน

โครงสร้าง present simple tense
เมื่อเทียบกับ tense อื่นๆ present simple tense นั้นถือว่ามีโครงสร้างที่เรียบง่าย โดยหัวใจหลักอย่างหนึ่งของมันก็คือการใช้คำกริยาช่อง 1

แต่ present simple tense ก็มีความซับซ้อนนิดหน่อยตรงที่ว่า จะมีการใช้คำกริยารูป s/es ด้วย โดยจะมีหลักการคือ

ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ (เช่น we, they, boys, teachers, cats, pens) หรือเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 1 และ 2 (I และ you) เราจะต้องใช้คำกริยารูปปกติ (เช่น go, come, eat)
ถ้าประธานเป็นเอกพจน์บุรุษที่ 3 (เช่น he, she, it, boy, teacher, cat, pen) เราจะต้องใช้คำกริยารูปที่เติม s/es (เช่น goes, comes, eats)
นอกเหนือจากนี้แล้ว ยังมีประเด็นในเรื่องชนิดของประโยคอีก ซึ่งประโยคแต่ละชนิด อย่างเช่น ประโยคบอกเล่า ประโยคปฏิเสธ และประโยคคำถาม ก็จะมีโครงสร้างและรายละเอียดการใช้ tense ที่ต่างกัน ซึ่งก็คือ

ทบทวนความรู้
Subject แปลว่า ประธาน
Verb แปลว่า คำกริยา
Object แปลว่า กรรม หรือ ผู้ถูกกระทำ เช่นในประโยค I love you.
Complement แปลว่า ส่วนเติมเต็ม ซึ่งก็คือคำที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประธาน เวลาใช้มักจะตามหลัง linking verb (เช่น is, am, are, feel, seem) เช่นในประโยค I am a student.

หลักการใช้ present simple tense
การใช้ present simple tense จะมีประเด็นหลักๆ ได้แก่
Present simple tense ใช้ตอนไหน?? เราจะใช้ present simple tense เมื่อ

1. กล่าวถึงสิ่งที่เป็นจริงในปัจจุบัน
1.1 I am a student. // ฉันเป็นนักเรียน

1.2 Joe lives in Japan with his friend. // โจอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นกับเพื่อน

2. กล่าวถึงสิ่งที่เป็นกิจวัตร
2.1 I play football every day. // ฉันเล่นฟุตบอลทุกวัน

2.2 The train leaves every morning at 7 a.m. // รถไฟจะออกทุกๆ เช้าตอน 7 โมง

3. กล่าวถึงข้อเท็จจริงตามธรรมชาติ
3.1 The sun rises in the east. // พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก

3.2Students don’t generally have much money. // เด็กนักเรียนโดยทั่วไปแล้วไม่ได้มีเงินมาก

4. กล่าวถึงแผนการหรือตารางเวลา
4.1 The bus arrives at the bus stop every 15 minutes. // รถบัสจะมาถึงป้ายทุกๆ 15 นาที

4.2 The school term starts next month. // โรงเรียนจะเปิดเทอมในเดือนหน้า

5. ให้คำแนะนำ ข้อมูล หรือรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ
5.1 To start the program, first you click the icon on the desktop. // ในการเริ่มโปรแกรม ก่อนอื่นให้คุณคลิกที่ไอคอนบนเดสก์ท็อป

5.2 You go straight along the road and turn right at the corner. // คุณตรงไปตามถนนแล้วเลี้ยวขวาตรงหัวมุม

(การให้คำแนะนำ หรือรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ เราอาจละประธานได้ เช่น Go straight along the road and turn right at the corner. ซึ่งเราจะเรียกรูปประโยคที่ละประธานนี้ว่า imperative form)

เกร็ดความรู้
นอกจากกรณีเหล่านี้แล้ว เรายังสามารถใช้ present simple tense ในการเล่ามุขตลก หรือเล่าเรื่องราวต่างๆ ได้อีกด้วย (เช่น เรื่องราวชีวิต เรื่องราวคนอื่น เรื่องราวจากหนังสือ เรื่องราวจากหนัง) การใช้ present simple tense ในการเล่าเรื่อง จะช่วยให้เรื่องที่เล่านั้นดูสดใหม่และใกล้ตัวมากขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้ past tense

สรุป present simple tense
Present simple tense คือรูปคำกริยาที่ใช้กับข้อเท็จจริงทั่วไป สิ่งที่เป็นกิจวัตร หรือแผนการและตารางเวลา ซึ่งจะใช้คำกริยาช่อง 1 (เช่น go, come, eat)

ประโยคบอกเล่า ประโยคคำถาม และประโยคปฏิเสธ จะมีโครงสร้างประโยคและรายละเอียดการใช้ tense ที่ต่างกัน สำหรับประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ ถ้าคำกริยาหลักไม่ใช่ verb to be เราจะต้องนำ do/does เข้ามาใช้ด้วย

เราจะใช้ present simple tense เมื่อ
กล่าวถึงสิ่งที่เป็นจริงในปัจจุบัน
กล่าวถึงสิ่งที่เป็นกิจวัตร
กล่าวถึงข้อเท็จจริงตามธรรมชาติ
กล่าวถึงแผนการหรือตารางเวลา
ให้คำแนะนำ ข้อมูล หรือรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ
ใช้เล่าเรื่องหรือเล่ามุขตลก เมื่อเราต้องการให้เรื่องนั้นดูสดใหม่หรือใกล้ตัวมากขึ้น

เรามักเจอคำบอกความถี่ (เช่น always, often, sometimes) ใน present simple tense บ่อยๆ เพราะเป็นคำที่ใช้บ่งบอกถึงความเป็นกิจวัตร แต่คำเหล่านี้ จริงๆ แล้วก็สามารถใช้กับ tense อื่นได้ด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับใจความของประโยค

จบแล้วนะคะ กับ present simple tense ทีนี้เพื่อนๆ ก็คงจะเข้าใจ และสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะคะ และสำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ทั้งสนุก เพลิดเพลินและได้ความรู้ สามารถลงทะเบียนรับสิทธิทดลองเรียนฟรี 1 ครั้ง กับอิงลิช แก๊ง ได้แล้ววันนี้ค่ะ