การดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัว

การวางแผนดูแลสุขภาพตนเองและบุคคลในครอบครัว เป็นเรื่องที่มีคุณค่าอย่างยิ่งเพราะนอกจากจะเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ตัวของเราเองและบุคคลในครอบครัวเกิดความกระตือรือร้นในการดูแลสุขภาพแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดสัมพันธภาพอันดีระหว่างสมาชิกทุกคนในครอบครัว เกิดความรักในครอบครัวซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างดี อันจะนำไปสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต คุณค่าของการวางแผนดูแลสุขภาพของบุคคลในครอบครัว 

คำว่า “สุขภาพดี” ในแต่ละคนนั้นอาจแตกต่างกันออกไปตามแต่สภาวะสังคม หรือรูปแบบของวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน แต่โดยรวมแล้วสุขภาพดีอย่างน้อยจะต้องหมายถึง ความสมบูรณ์ของทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะเกิดได้เนื่องจากการดูแลเอาใจใส่ระบบต่างๆ ที่สำคัญของร่างกาย การที่จะมีสุขภาพดีได้นั้น ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพของตนเองหรือของบุคคลในครอบครัว ไม่ใช่เป็นสิ่งเกิดขึ้นได้ด้วยความบังเอิญ 

หากแต่จำเป็นที่จะต้องมีการวางแผนในการดูแลสุขภาพล่วงหน้าซึ่งจะช่วยให้เกิดผลดี ดังนี้ 

การดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัว

-สามารถที่จะกำหนดวิธีการหรือเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับการดำเนินชีวิตของตัวเราเองหรือบุคคลในครอบครัวได้อย่างเหมาะสม 

 

-สามารถที่จะกำหนดช่วงเวลาในการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสม อาจจะมีกิจกรรมการออกกำลังกายในช่วงเช้า หรือในบางครอบครัวอาจจะมีเวลาว่างในช่วงเย็น ก็อาจจะกำหนดกิจกรรมการส่งเสริมสุขภาพในช่วงเย็นก็ได้ หรืออาจจะกำหนดช่วงเวลาในการตรวจสุขภาพประจำปีของบุคคลในครอบครัวได้อย่างเหมาะสม

 

 -เป็นการเฝ้าระวังสุขภาพทั้งของตนเองและบุคคลในครอบครัว ไม่ให้ป่วยด้วยโรคต่างๆ นับว่าเป็นการสร้างสุขภาพ ซึ่งจะดีกว่าการที่จะต้องมาซ่อมสุขภาพ หรือการรักษาพยาบาลในภายหลัง

 

 -ช่วยในการวางแผนเรื่องของเศรษฐกิจและการเงินในครอบครัว เนื่องจากไม่ต้องใช้จ่ายเงินไปในการรักษาพยาบาล 

 

-ส่งเสริมสุขภาพทั้งของตนเองและบุคคลในครอบครัว

 

-ทำให้คุณภาพชีวิตทั้งของตนเองและสมาชิกในครอบครัวดีขึ้น 

 

การดูแลสุขภาพตนเอง

 

การรู้จักและสร้างนิสัยที่ดีในการเสริมสร้างสุขภาพหรือดูแลสุขภาพของตนเองให้สมบูรณ์ แข็งแรง ทั้งกายและใจ อารมณ์และปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะถ้าตัวเองมีวินัยเรื่องสุขภาพมีความรู้เรื่องสุขภาพก็จะเป็นผลดีต่อทุกๆด้านซึ่งการดูแลสุขภาพของคนนั้นพัฒนาตามวัย ได้แก่ วัยทารก วัยเด็ก วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ และวัยสูงอายุ โดยต้องดูแลแตกต่างกันไป การดูแลสุขภาพแบบองค์รวมที่ดีสามารถทำได้ดังนี้ 

 

– ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกายอย่างถูกวิธีของการออกกำลังกาย สัปดาห์ละ ๓-๕ วัน จะทำให้ร่างกายแข็งแรงจิตใจแจ่มใส และช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันโรคได้เป็นอย่างดี เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคภูมิแพ้

 

– การรับประทานอาหารที่ถูกต้อง รับประทานอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย มีอาหารครบถ้วนทั้ง ๕ หมู่ เสริมด้วยผักผลไม้ทุกๆมื้อ เพื่อช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย ช่วยเสริมสร้างสมอง ช่วยป้องกันโรคอ้วน เบาหวน มะเร็ง สมองเสื่อม 

– การพักผ่อนและการนันทนาการ การพักผ่อนเป็นการสร้างภูมิต้านทานโรคเป็นการผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน เป็นการพักการทำงานของกล้ามเนื้อให้ลดการทำงานหนักๆ เพื่อฟื้นคืนสู่สภาพปกติ การพักผ่อนมีหลายวิธี รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมนันทนาการ แต่การพักผ่อนวิธีที่ดีที่สุด คือการพักผ่อนตอนกลางคืน วันละ ๖-๘ ชม.

 

– หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง หมายถึง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่บ่อนทำลายสุขภาพ หรือเป็นสาเหตุของการที่จะเกิดอุบัติภัยและภัยอันตราย เช่น การดื่มสุรา การสูบบุหรี่ การเสพสารเสพติดที่จะเป็นตัวทำลายระบบประสาทและสมอง การสำส่อนทางเพศและพฤติกรรมประมาท

 

– สร้างทักษะในชีวิตเพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ การใช้ชีวิตร่วมกันในครอบครัวต้องมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษา สาธารณสุขหรือความเป็นอยู่ทั่วไป ซึ่งต้องเน้นการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขมีความสามารถที่จะเผชิญเหตุการณ์ต่างๆทางสังคมที่เป็นลบ เช่น การมั่วสุมสารเสพติด หรือ การถูกชักชวนให้มีพฤติกรรมเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม โดยอาศัยทักษะที่จำเป็น เช่น ทักษะในการจัดการกับความขัดแย้งในครอบครัว

 

– การมีพัฒนาการทางด้านปัญญา ซึ่งมีวิธีหลากหลายที่จะช่วยให้บุคคลและความเห็นแก่ตัว มุ่งเข้าถึงความดี เช่น การศึกษา การเล่นกีฬา การศาสนา การรวมกลุ่ม การเจริญภาวนา การสัมผัสธรรมชาติ เป็นต้น ที่จะทำให้เข้าถึงความสุขทางปัญญาทำให้สุขภาพจิตดี ซึ่งจะส่งผลต่อการมีสุขภาพดีตามมา 

 

– มีการเรียนรู้ที่ดี เช่น การอ่านหนังสือ เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ก็เป็นกิจกรรมที่ทำให้เกิดความสนุก ทำให้เกิดปัญญา เกิดความคิด ความสุข สร้างแรงจูงใจที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ มากขึ้น

 

– การจัดสิ่งแวดล้อมให้เกื้อกูลต่อสุขภาพ ทั้งทางกายภาพ ทางชีวภาพ และทางสังคม สามารถทำได้ เช่น การมีสุขาภิบาลที่ดีสิ่งแวดล้อมที่สะอาดปราศจากมลพิษ ปราศจากแหล่งเพาะพันธุ์พาหะนำโรค การมีสัมพันธภาพและมิตรไมตรีต่อกัน

 

ครอบครัวเป็นสังคมเล็กๆ สังคมหนึ่ง มีสมาชิกเพียงแค่พ่อ แม่ ลูก หรือเป็นสังคมของกลุ่มญาติอันประกอบด้วยบิดา มารดา ปู่ ย่า ตา ยาย ลูก ซึ่งสมาชิกในครอบครัวจะมีบทบาทหน้าที่ต่างกัน แต่ทุกคนต้องมีความห่วงใย มีความรัก เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ให้ความช่วยเหลือดูแลกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะด้านการดูแลสุขภาพ แต่ละคนมีหน้าที่ดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ซึ่งเมื่อทุกคนต่างก็ดูแลสุขภาพตนเองไม่ให้เจ็บไข้แล้ว สุขภาพส่วนรวมหรือสุขภาพของครอบครัวก็จะแข็งแรงสมบูรณ์ตามไปด้วย