รูปแบบประโยคอังกฤษง่ายๆที่ใช้งานจริง

วันนี้ขอนำเสนอ รูปแบบประโยคภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ และมักใช้กันจริงในชีวิตประจำวัน พร้อมประโยคสนทนาในสถานการณ์เหล่านั้นด้วยค่ะ พร้อมแล้วไปเริ่มกันเลย

รูปแบบประโยคอังกฤษง่ายๆที่ใช้งานจริง

What do you say …?
What do you say…? เธอว่าไง มักใช้ในการถามความเห็นของอีกฝ่ายว่า สิ่งที่เราเสนอไปเป็นอย่างไร น่าสนใจไหม เช่น

– What do you say if we turn down the A/C?
(เธอว่าไงถ้าจะขอเบาแอร์หน่อย) A/C ย่อมาจาก air conditioner คือเครื่องปรับอากาศ หรือว่าแอร์นั่นเอง

– Let’s eat out. What do you say?
(ไปกินข้าวนอกบ้านกัน เธอว่าไง) eat out ในที่นี้เป็น phrasal verb (กิริยาวลี) ที่แปลว่า กินข้าวนอกบ้านค่ะ

Do you feel like…?
Do you feel like…? เธอรู้สึกอยาก..บางอย่างไหม มักใช้ในการถามความเห็นของอีกฝ่ายว่า สิ่งที่เราเสนอไปเป็นอีกฝ่ายต้องการทำ หรืออยากจะทำหรือเปล่า เช่น

– Do you feel like having some coffee together?
(คุณอยากไปทานกาแฟด้วยกันไหม)

– Do you feel like going shopping?
(เธออยากออกไปชอปปิ้งไหม)

Would you care for…?
Would you care for…? คุณอยากรับ..ไหมคะ เป็นรูปแบบคำถามที่สุภาพมาก ที่เรามักได้ยินพนักงานโรงแรม หรือ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินถามลูกค้ากัน หรือเวลาที่ถามคำถามคนที่อายุมากกว่าและเราให้ความเคารพ เช่น

– Would you care for coffee or tea?
(คุณอยากรับชาหรือกาแฟดีคะ)

– Would you care for dessert grandma?
(อยากทานของหวานไหมคะคุณยาย)

No wonder…
No wonder… ไม่สงสัยเลยว่า. เช่น

– No wonder why you lose weight, you do exercise every day!
(ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเธอน้ำหนักลง ออกกำลังทุกวันนี่เอง)

– She dumped you! No wonder!
ประโยคนี้หมายถึงสถานการณ์ที่เพื่อนเราโดนแฟนทิ้ง แต่เราตอบกลับไปว่า No wonder แปลทำนองว่า เออ ก็พอรู้อยู่ละว่าทำไม.. ก็เพราะแกเป็นคน.. (เติมคำในช่องว่างได้เลยค่ะ ฮ่าๆ)

I can’t help…
I can’t help… แปลว่า มันอดไม่ได้จริงๆ ที่จะ.. ในที่นี้สามารถเปลี่ยนประธานเป็นใครก็ได้ เช่น

– I can’t help crying every time I watch this movie.
(มันอดไม่ได้ที่ฉันจะร้องไห้ทุกครั้งที่ดูหนังเรื่องนี้)

– I can’t help thinking about her.
(อดคิดถึงเธอไม่ได้)

Help yourself…
Help yourself… ช่วยเหลือตัวเองได้เลย มักจะได้ยินเวลาเราไปบ้านเพื่อน บ้านคนรู้จัก แล้วเจ้าของบ้านบอกให้ทำตัวตามสบายได้เลย หรือเวลาไปกินข้าวกันแล้วเจ้าบ้านบอกให้หยิบอะไรไปทานได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ เช่น

– It’s freshly baked, help yourself with some cookies.
(นี่อบใหม่ๆ เลยนะ หยิบคุกกี้ทานได้เลย)

– Please help yourself to any refreshment for a break.
(หยิบขนมนมเนย หรือน้ำไปทานได้เลยระหว่างเบรก)

I’m looking forward to…(V.ing)…
I’m looking forward to… ฉันรอคอยที่จะทำอะไรบางอย่าง หรือตั้งตารออะไรบางอย่าง เช่น

– I’m looking forward to hearing from you.
(ฉันรอคอยที่จะได้ยินข่าว หรือได้รับการติดต่อจากคุณ)

– I’m really looking forward to seeing them again.
(ฉันเฝ้ารอที่จะได้เจอพวกเธออีกครั้ง)

My turn / Your turn
My turn หรือ Your turn ตาฉัน หรือ ตาเธอละ เช่นเวลาเล่นเกมส์ที่ผลัดกันเล่นคนละตา หรือผลัดกันเล่าเรื่องคนละเรื่อง เช่น

– Ok, my turn!
(โอเค ตาฉันละ)

– I already told my story, now it’s your turn.
(ฉันเล่าเรื่องของฉันไปละ ทีนี้ตาเธอแล้ว)

Speaking of …
Speaking of… ในภาษาไทยเทียบได้กับ “เออ ว่าแต่..” เหมือนเวลาเราคุยกันอยู่แล้วนึกถึงอะไรบางอย่างออก (อาจจะเป็นจากหัวข้อที่คุยกัน) ก็พูดได้ เช่น

– Speaking of Jane, have you met her lately?
(เออ ว่าแต่พูดถึงเจน เธอได้เจอเค้ามั่งไหม)

– Speaking of travelling, which country you’d like to go the most?
(เออ พูดถึงเรื่องเที่ยว เธออยากไปประเทศไหนมากที่สุด)

By the way…
By the way… มักพูดเวลาที่ใช้เวลาเปลี่ยนเรื่องคุยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เช่น

– Oh, by the way, Anna asked me to hand this thing to you.
(เออ แอนนาฝากของนี่มาให้เธอแหนะ)

– By the way, you look different today, tell me about it.
(เอ๊ เธอดูเปลี่ยนไปนะวันนี้ ไหนบอกมาว่าไปทำอะไรมา)