อยากฝึกลูกให้พูดภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว ต้องทำตามเคล็ดลับต่อไปนี้

เป้าหมายสูงสุดของคุณพ่อคุณแม่ ในการฝึกฝนภาษาอังกฤษให้กับลูกน้อย คือการที่เด็ก ๆ สามารถนำภาษาอังกฤษไปใช้ได้ในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังสามารถพูดคุยสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว แต่การเรียนการสอนในบ้านเรานั้นไม่ได้เอื้ออำนวยให้เด็ก ๆ ใช้ภาษาอังฤษได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ต้องเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่แล้วล่ะค่ะ ที่จะชาวยส่งเสริมและเพ่มเติมความรู้ในภาษาอังกฤษให้ลูก ๆ ของคุณ

ฝึกลูกให้พูดภาษาอังกฤษ

แต่การเรียนภาษาอังกฤษนั้น English Gang ขอให้คุณพ่อคุณแม่ไม่คาดหวังว่าจะเห็นผลได้ในเร็ววัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างในการเรียนรู้นั้น จำเป็นต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์ การเรียนการสอนภาษาอังกฤษก็เช่นเดียวกันค่ะ

และในวันนี้ Eglish Gang มีเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สอนภาษาอังกฤษให้กับลูก ๆ ได้อย่างเห็นผล และช่วยให้เด็ก ๆ สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่วในอนาคต เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าเคล็ดลับเหล่านั้นมีอะไรบ้าง

1. ยอมรับว่าการออกเสียงในภาษาอังกฤษนั้นยุ่งยาก

การออกเสียงในภาาาอังกฤษ บางครั้งก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่สับสนได้ใช่ไหมล่ะคะ ไม่ว่าจะเป็นคำพ้องรูปที่เขียนเหมือนกัน แต่ดั๊นนน ออกเสียงไม่เหมือนกัน เช่นคำว่า Read (รีด) หรือ Read (เรด) หรือแม้แต่การเปลี่ยนคำสรรพนาม และการเปลี่ยนคำนามต่าง ๆ เมื่อจำนวนเปลี่ยนแปลงไป

และนอกจานี้ในภาษาอังกฤษยังมีข้อจำกัดและกฎต่าง ๆ มากมาย ที่ทำให้ภาษาอังกฤษมีความยุ่งยากซับซ้อน ดังนั้น การที่คุณพ่อคุณแม่จะพยายามหาเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ปวดหัวและมีอคติต่อภาษาอังกฤษได้ ทางที่ดีคือการยอมรับในกฎต่าง ๆ และเรียนรู้อย่างเข้าใจจะดีกว่าค่ะ

2. จัดเวลาการเรียนการสอนให้เพียงพอเหมาะสม

การเรียนการสอนภาษาอังกฤษ 1-2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์อาจจะไม่เพียงพอ แต่หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้เด็ก ๆ พสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ในระยะเวลาอันสั้น คือการพูดคุยกับเขาเป็นภาษาอังกฤษอย่างน้อย ๆ วันละ 10-15 นาที สลับกับกิจกรรมสนุก ๆ อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลงเป็นภาษาอังกฤษ การเล่นเกม หรือการทำกิจกรรมอื่น ๆ หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการที่จะให้ลูกสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษได้จริง ๆ คุณพ่อคุณแม่ควรใส่การเรียนการสอนสั้น ๆ นี้ ไปในชีวิตประจำวันในทุก ๆ วันค่ะ

3. เลิกมองว่าเด็กคือนักเรียน

หากคุณพ่อคุณแม่ยังคงมองว่าเด็กคือนักเรียน คุณพ่อคุณแม่ก็จะทำเหมือนว่าเขาเป็นแค่นักเรียนคนหนึ่ง แนะนำให้คิดว่าลูกของคุณคือคน ๆ หนึ่งที่ต้องการมาศึกษาหาความรู้ จะทำให้คุณพ่อคุณแม่สอนในสิ่งที่เขาอยากรู้และจำเป็นต้องรู้ได้ดียิ่งกว่า

4. สอนเด็ก ๆ ให้จำไว้ว่า คำถามก็คือคำตอบ คำตอบก็คือคำถาม

ในการถามตอบเป็นภาษาอังกฤษนั้น มักจะมีการตอบทวนคำถามอยู่เสมอ ดังนั้น สอนให้เด็ก ๆ ตั้งใจฟังคำถามให้ดี ยกตัวอยางเช่น

Does he…..?                       Yes, he does.

Can she….?                         Yes, she can.

Is it….?                                  Yes, it is.

และหากเด็ก ๆ ถูกถามคำถามที่ไม่มั่นใจว่าคำถามนั้นคืออะไร หรือไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร สอนให้เด็ก ๆ คิดถึงคำศัพท์ที่ผู้ถามใช้ และในภาษาอังกฤษ มักจะมีวิธีลัดต่าง ๆ ให้เรียนรู้มากมาย ลองให้เด็ก ๆ เรียนรู้วิธีลัดเหล่านั้นดูนะคะ รับรองว่าเด็ก ๆ จะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ไวมากยิ่งขึ้น

5. ให้เด็กฟังภาษาอังกฤษเยอะ ๆ

การฝึกให้เด็กฟังภาษาอังกฤษเยอะ ๆ จะช่วยให้เด็กเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ เรียนรู้การออกเสียง สำเนียงต่าง ๆ และช่วยให้เด็ก ๆ สามารถเข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้น เริ่มแรกอาจจะให้เด็ก ๆ ฟังอะไรง่าย ๆ ก่อน เช่น เพลงสำหรับเด็ก การสนทนาสั้น ๆ ง่าย ๆ การ์ตูนที่เข้าใจง่าย จากนั้นพัฒนาความยากขึ้นมาเรื่อย ๆ

6. ใช้ภาษาอังกฤษทุก ๆ วัน เพื่อป้องกันการลืม

เหตุผลหนึ่งที่คนไทยเราไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ถึงแม้ว่าจะเรียนมาเป็น 10 ปี ก็ตาม เหตุผลนั้นคือการที่เราไม่ได้ฝึกฝนหรือใช้งานภาษาอังกฤษ จึงทำให้เราลืม กับเด็ก ๆ ก็เช่นเดียวกันค่ะ แนะนำให้พูดคุยกับเขาทุก ๆ วัน ใช้ภาษาอังกฤษกับเขาทุก ๆ วัน เป็นการทบทวนความรู้ของคุณพ่อคุณแม่เอง และเป็นการฝึกภาษาอังกฤษให้ลูก ๆ ไปในตัวด้วยค่ะ

7. อย่าสอนแกรมม่ามากเกินไป

การเรียนการสอนภาษาอังกฤษบ้านเรานั้นมักจะเน้นแกรมม่ายาก ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ สอบผ่าน แต่หารู้ไม่ว่าการเรียนการสอนแบบนี้ เด็ก ๆ ไม่สามารถเอาไปใช้งานได้จริง กุญแจในการสื่อสารภาษาอังกฤษให้ได้นั้นคือการเรียนรู้รูปประโยคคต่าง ๆ เพื่อให้สื่อสารกับคนอื่นได้ สามารถตอบคำถามได้ สามารถแสดงความคิดเห็นหรือความต้องการได้ ดังนั้นสอนในสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน สอดแทรกแกรมม่าบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่อย่าเน้นที่แกรมม่าเป็นหลักเพียงอยางเดียวค่ะ

ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะ กับการสอนภาษาอังกฤษ เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถพูดคุยสื่อสารได้อย่างคล่องแคล่ว คูรพ่อคุณแม่ลองนำเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ดู รับรองว่าการเรียนการสอนภาษาอังกฤษจะเห็นผลอย่างแน่นอนค่ะ