การเรียนรู้ในวิกฤติ Covid-19

Hybrid Homeschool New Normal ของการเรียนรู้ในวิกฤติ Covid-19

Hybrid Homeschool ที่จะเปลี่ยนวิธีการศึกษาในทศวรรษนี้ไปอย่างสิ้นเชิง
ดูเหมือนว่า Covid-19 จะส่งผลกระทบกับสังคมในหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแวดวงการศึกษา มีการเลื่อนกำหนดการเปิดเทอมออกไปเป็นวันที่ 1 ก.ค. 63 รวมทั้งข้อเสนอแนวคิดเรื่องการเรียนออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายคนที่ยังไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยี และระหว่างที่ยังไปโรงเรียนไม่ได้ก็ต้องขอแรงผู้ปกครองที่ Work From Home สวมบทบาทเป็นครูผู้สอนในการทำ Homeschool แทน

การเรียนรู้ในวิกฤติ Covid-19

อันที่จริงการเรียนแบบ Homeschool เป็นที่พูดถึงกันมานานแล้ว แต่ยังไม่มีเสียงตอบรับที่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากเกรงว่าการเรียน Homeschool นานๆ ตั้งแต่เด็กจนโต จะทำให้เด็กขาดทักษะการเข้าสังคม ซึ่งปัจจุบันข้อเสียนี้กลายเป็นเรื่องตกยุคไปเสียแล้ว และทุกวันนี้หลายคนกำลังพูดถึง Hybrid Homeschool แทน และ็ัิ Hybrid Homeschool นี้ อาจจะกลายเป็น New Normal สำหรับโลก และประเทศไทยก็เป็นได้

Hybrid Homeschool โฮมสคูลแบบลูกครึ่ง
เป็นการเรียนแบบครึ่งหนึ่งของเวลาอยู่ที่บ้าน ส่วนอีกครึ่งอยู่ที่โรงเรียน ยกตัวอย่างเช่นในหนึ่งสัปดาห์ เด็กจะไปโรงเรียนเพียงสามวัน ที่เหลือคือเรียนกับผู้ปกครองที่บ้าน ซึ่งในสหรัฐอเมริกามีโรงเรียนลูกครึ่งแบบนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และอาจจะเป็นอนาคตใหม่ของการศึกษาขั้นพื้นฐาน

สาเหตุที่ Hybrid Homeschool ป๊อปปูลาร์ในอเมริกา ก็เพราะมันตอบโจทย์ Painpoint ของพ่อแม่หลายคู่ที่ไม่มั่นใจในความสามารถในการสอนทุกอย่างให้กับลูกของตัวเอง นอกจากนี้ยังมีเรื่องการให้เวลากับลูกชนิดเต็มเวลา ซึ่งพ่อแม่บางรายไม่สามารถทำได้ และยังเป็นกังวลว่าลูกของตัวเองจะไม่มีเพื่อนวัยเดียวกันให้เล่นให้พูดคุยด้วย หรือพูดง่ายๆ ไม่มีสังคม

แต่เด็กที่เรียน Hybrid Homeschool นอกจากจะได้ใช้เวลากับพ่อแม่แล้ว พวกเขายังสามารถใช้เวลากับเพื่อนยามไปโรงเรียน จึงเท่ากับเป็นการรวมข้อดีของทั้ง 2 ระบบมาไว้ในระบบเดียว ขณะที่พ่อแม่ยังมีความสำคัญในการกำหนดแนวทางและสภาพแวดล้อมในการเรียนให้เหมาะกัยลูก เด็กก็มีโอกาสสัมผัสการเรียนการสอนในห้องเรียน และทำกิจกรรมบางอย่างที่โรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมกิจกรรมชมรมต่างๆ การเล่นกีฬา หรือเข้าห้องสมุดของโรงเรียน
นอกจากนี้ยังง่ายต่อการสร้างเครือข่ายผู้ปกครองของนักเรียนในระบบนี้อีกด้วย การเรียนแบบ Hybrid Homeschool จึงสามารถยืดหยุ่น มีการแบ่งภาระของทั้งครูและผู้ปกครอง ไม่ให้ตกอยู่แค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเหมือนแต่ก่อน แต่กระนั้นบทบาทของผู้ปกครองยังคงสำคัญที่สุด และช่วยให้สามารถขจัดความกังวลหลายอย่างออกไปได้ ทำให้การเรียนแบบ Hybrid Homeschool นี้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น

สำหรับระบบ Hybrid Homeschool ปัจจุบันนี้ในอเมริกา มีให้เลือกทุกระดับชั้น ไม่ว่าจะเป็นอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าปกติ แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ยินดีจ่าย เพราะมีความยืดหยุ่น ส่งผลในด้านบวกต่อทั้งเด็กและผู้ปกครอง เรื่องที่เกรงว่าลูกจะเข้าสังคมไม่เก่งก็ลืมไปได้เลย ขณะที่ผู้ปกครองยังมีเวลาพักหายใจในวันที่ลูกไปโรงเรียน

ในช่วงที่ Covid-19 กำลังโจมตีโลกอย่างไม่ปราณี น่าจะถือเป็นจังหวะเหมาะสำหรับการนำระบบ Hybrid Homeschool มาใช้กับประเทศไทยเราเป็นอย่างมาก เพราะเป็นระบบที่สามารถตอบโจทย์กลายเป็น New Normal ได้ไม่ยาก และแม้ว่าวงการแพทย์ของโลกจะสามารถค้นพบวัคซีนฆ่า Covid-19 ออกมาแล้ว เราก็ยังเชื่อว่าระบบ Hybrid Homeschool จะกลายเป็นกระแสหลักของการศึกษาในอีกหลายทศวรรษหน้า